ข้อกำหนดและเงื่อนไขฉบับนี้ (“ข้อกำหนดใช้บริการ”) มีผลบังคับใช้กับผู้ใช้บริการร้านค้าออนไลน์ (“ผู้ใช้บริการ”) ที่ลงทะเบียนและเข้าใช้งานระบบจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ชื่อ “Order Plus” ซึ่งให้บริการโดย บริษัท ไบด์เซอร์ เทค จำกัด (“ผู้ให้บริการ”)

ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ในการศึกษาและพิจารณาข้อกำหนดใช้บริการในประกาศฉบับนี้อย่างรอบคอบก่อนลงทะเบียนหรือสมัครสมาชิก โดยการลงทะเบียนและเข้าใช้บริการผ่านเว็บไซต์นี้ ถือว่าผู้ใช้บริการได้ยอมรับและตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดใช้บริการทุกประการ

คำนิยาม 

ผู้ให้บริการ หมายถึง บริษัท ไบด์เซอร์ เทค จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินงานภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ชื่อ “Order Plus” หรือชื่ออื่นใดที่ใช้แสดงถึงบริการดังกล่าว และให้หมายรวมถึงการให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะดำเนินการผ่านเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือช่องทางอื่นใดของบริษัท

ผู้ใช้บริการ หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เข้าถึงการใช้งาน เว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือช่องทางอื่นใดของผู้ให้บริการ 

ผู้ให้บริการขนส่ง” หมายถึง นิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจให้บริการรับ–ส่งพัสดุภายในราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) โดยตรง เพื่อให้บริการจัดส่งสินค้าแทนผู้ใช้บริการ หรือในนามผู้ใช้บริการผ่านระบบของ Order Plus

การให้บริการ หมายถึง การให้บริการระบบบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ชื่อ Order Plus ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

  1. ระบบรวมแชทจากหลายเพจ Facebook เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตอบกลับลูกค้า จัดการการขาย และเปิดบิลได้จากจุดเดียว (Chat Plus)
  2. ระบบแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เมื่อลูกค้าทักแชท หรือเมื่อพัสดุเกิดปัญหา (Line Notify)
  3. ระบบเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Business Suite สำหรับดึงข้อมูลคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ (Key Plus)
  4. ระบบจัดการไลฟ์สด Facebook Live ที่รองรับการเปิดบิลอัตโนมัติจากคอมเมนต์ CF พร้อมบริหารสต็อกสินค้า (CF Live Plus)
  5. ระบบรายงานยอดขาย กำไร-ขาดทุน และข้อมูลเชิงสถิติแบบเรียลไทม์ (Report Plus)
  6. ระบบจัดการสต็อกสินค้าแบบอัตโนมัติที่รองรับหลาย SKU สี ไซส์ (Stock Plus)
  7. ระบบบริหารช่องทางการขายออนไลน์ทั้งหมดในที่เดียว เช่น เพจ Facebook, Live, Marketplace ฯลฯ (Omni Channel Plus)
  8. ฟีเจอร์หรือบริการอื่นใดที่อาจมีการพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคตโดยผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์ของผู้ใช้บริการ

บริการทั้งหมดนี้ให้ไว้ผ่านทางเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือช่องทางอื่นใดของผู้ให้บริการ เพื่อสนับสนุนกระบวนการขาย 
การจัดส่ง การจัดการร้านค้าและลูกค้าของผู้ใช้บริการ

ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลธุรกิจ หรือข้อมูลอื่นใด ที่ผู้ใช้บริการหรือผู้รับมอบอำนาจของผู้ใช้บริการให้ไว้แก่ผู้ให้บริการผ่านระบบหรือแพลตฟอร์มใด ๆ ของผู้ให้บริการ

ค่าบริการ หมายถึง ค่าธรรมเนียม หรือค่าดำเนินการอื่นใดที่ผู้ให้บริการเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการตามอัตราที่กำหนดไว้บนเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม หรือช่องทางอื่นใดของผู้ให้บริการ 

มาตรการส่งดี” (Dee – Delivery) หมายถึง แนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์ที่ออกโดย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ภายใต้ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป 

ชำระเงินปลายทาง” หรือ “COD” (Cash on Delivery) หมายถึง รูปแบบการชำระเงินค่าสินค้าที่ผู้บริโภคจะชำระต่อพนักงานจัดส่งสินค้าหรือผู้ให้บริการขนส่ง ณ เวลาที่ได้รับสินค้าตามคำสั่งซื้อ โดยมิได้ชำระเงินล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์หรือช่องทางอื่นก่อนการจัดส่ง

หมวดที่ 1 การใช้งานบัญชีของผู้ใช้บริการ 

ข้อ 1. ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการแก่ผู้ให้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการจัดส่งสินค้าและการประสานงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในบางกรณี ผู้ให้บริการอาจร้องขอเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมจากผู้ใช้บริการ เพื่อยืนยันตัวตนหรือประกอบความถูกต้องของข้อมูลตามที่เห็นสมควร และผู้ใช้บริการตกลงให้ความร่วมมือโดยไม่มีเงื่อนไข

หากปรากฏภายหลังว่าผู้ใช้บริการได้ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือน หรือไม่ครบถ้วน อันอาจส่งผลกระทบต่อความถูกต้องในการให้บริการ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือยกเลิกการให้บริการในทันที และอาจเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าวได้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

ข้อ 2. ผู้ให้บริการไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการนำเข้า ส่งออก หรือกระทำการใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับข้อมูลหรือเอกสาร ผ่านระบบหรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์ ไม่ว่าจะโดยเจตนา หรือประมาทเลินเล่อ รวมถึงการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการแทรกแซง ดัดแปลง แพร่กระจายไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมที่เป็นอันตราย ทั้งนี้ ผู้ให้บริการมีอำนาจดำเนินคดีแก่ผู้ใช้บริการกรณีที่การกระทำนั้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 3. ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมอบหมายหรืออนุญาตให้บุคคลภายนอกซึ่งมิได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในการดูแลหรือบริหารจัดการบัญชี เข้าถึงหรือใช้งานระบบแทน ผู้ให้บริการจะถือว่าการกระทำของบุคคลดังกล่าวเป็นการกระทำของผู้ใช้บริการโดยสมบูรณ์ และหากการกระทำนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย สูญเสียผลประโยชน์ หรือผลกระทบใด ๆ ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าวไม่ว่าในกรณีใด

ข้อ 4. ผู้ให้บริการไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการโอน หรือจำหน่ายจ่ายโอนสิทธิ หน้าที่ หรือข้อผูกพันใด ๆ ภายใต้ข้อกำหนดใช้บริการฉบับนี้ รวมถึงนโยบายความเป็นส่วนตัว แก่บุคคลอื่นหรือนิติบุคคลใด ๆ ไม่ว่าในกรณีใด โดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการล่วงหน้า

การฝ่าฝืนข้อนี้อาจเป็นเหตุให้ผู้ให้บริการระงับหรือยกเลิกการให้บริการทันที และสงวนสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการโอนสิทธิหรือหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าว

ข้อ 5. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการให้บริการจัดส่งสินค้าที่มีลักษณะหรือเข้าข่ายเป็นสิ่งของต้องห้าม หรือขัดต่อข้อกำหนดของผู้ให้บริการขนส่งที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งของดังต่อไปนี้ 

  1. สัตว์มีชีวิต
  2. สิ่งเสพติดให้โทษ หรือสารต้องควบคุมที่อาจเข้าข่ายเป็นอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ข้อห้ามตามกฎหมาย หรืออยู่ภายใต้การควบคุมเฉพาะการใช้งานโดยหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตตามขั้นตอนที่ชัดเจน และไม่ขัดต่อแนวปฏิบัติของผู้ให้บริการขนส่ง
  3. สิ่งลามกอนาจาร หรือสิ่งของที่มีข้อความ เครื่องหมาย หรือภาพที่สื่อถึงความหยาบคาย ไม่เหมาะสม
  4. วัตถุไวไฟ วัตุระเบิด หรือวัตถุที่อาจก่อให้เกิดการลุกไหม้หรือระเบิดได้ เช่น สารเคมีที่ติดไฟง่าย น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซอัดความดัน พลุ ประทัด ดินปืน หรือวัตถุอื่นใดที่มีคุณสมบัติเสี่ยงต่อการติดไฟหรือระเบิด ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ซึ่งการขนส่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน และไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งตามนโยบายของผู้ให้บริการขนส่งหรือข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
  5. วัตถุมีคมที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
  6. สิ่งโสโครก สิ่งปฏิกูล สิ่งมีพิษ หรือวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือทรัพย์สินของพนักงานจัดส่ง ผู้รับ หรือบุคคลอื่น เช่น สารเคมีอันตราย ของเสียจากสัตว์หรือมนุษย์ วัตถุติดเชื้อ วัสดุมีรังสี หรือของเหลวที่อาจรั่วไหลหรือกัดกร่อน ทั้งนี้ รวมถึงสิ่งของที่ส่งกลิ่นรุนแรงหรือทำให้เกิดความรำคาญโดยทั่วไป
  7. สินค้าปลอมแปลงหรือละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น
  8. สิ่งของที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน  หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ศาสนา หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ 
  9. วัตถุมงคล หรือสิ่งของที่มีมูลค่าทางจิตใจซึ่งไม่สามารถประเมินราคาได้ เช่น พระเครื่อง เครื่องราง หรือวัตถุที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อส่วนบุคคล
  10.     10.สิ่งของใด ๆ ที่ขัดต่อข้อบังคับ หรือนโยบายของผู้ให้บริการขนส่งที่เกี่ยวข้อง
  11.     11.เอกสารทางราชการ หรือเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่นใดที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ และมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัว หรือก่อให้เกิดความเสียหาย กรณีเอกสารสูญหายหรือถูกเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์เพิ่มเติมในการไม่รับขนส่งสิ่งของอื่นใดนอกเหนือจากรายการข้างต้น หากเห็นว่าอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง หรือไม่เหมาะสม โดยจะประกาศแจ้งเตือนผ่านทางเว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

หมวดที่ 2 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 6. ผู้ให้บริการเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ และจะไม่เปิดเผย นำไปใช้ หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลภายนอก หรือนิติบุคคลใด ๆ ไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใด เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้:

  1. ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการก่อนการเปิดเผย
  2. เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ ศาล หรือเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ
  3. การเปิดเผยดังกล่าวเป็นไปตามที่ระบุไว้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ของผู้ให้บริการ
  4. เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  5. เป็นการปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิในสัญญาระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ หรือเพื่อประโยชน์โดยชอบธรรมของผู้ให้บริการ โดยไม่กระทบสิทธิเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลอย่างไม่เหมาะสม

ทั้งนี้ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ จะดำเนินการภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการอย่างเคร่งครัด

หมวดที่ 3 การยกเลิกบริการ 

ข้อ 7. การยกเลิกบริการโดยผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าบริการในกรณีที่ผู้ใช้บริการประสงค์จะยกเลิกการใช้บริการ หรือปรับลดระดับบริการก่อนครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญา โดยผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าบริการคืน ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เว้นแต่จะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลง หรือมีความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้บริการโดยชัดแจ้ง

ข้อ 8. การยกเลิกบริการโดยผู้ให้บริการ ในกรณีที่ผู้ให้บริการเป็นฝ่ายยกเลิกบริการเอง ผู้ให้บริการจะดำเนินการคืนค่าบริการให้ตามความเป็นจริง โดยจะหักค่าบริการ ค่าขนส่ง หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องชำระไว้แล้วตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลง

หมวดที่ 4 การชดใช้ค่าเสียหาย 

ข้อ 9 หากผู้ให้บริการตรวจพบว่าผู้ใช้บริการมีการละเมิดข้อตกลงหรือข้อกำหนดใช้บริการ ผู้ให้บริการจะดำเนินการแจ้งเตือนผ่านช่องทางการติดต่อที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งไว้ล่วงหน้า หากผู้ใช้บริการไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับหรือยกเลิกการให้บริการโดยไม่ต้องคืนค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น

ความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความเสียหายหากการกระทำของผู้ใช้บริการส่งผลกระทบต่อระบบ เครือข่าย ความปลอดภัย หรือชื่อเสียงของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และผู้ให้บริการสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมตามสิทธิที่กฎหมายให้ไว้

หมวดที่ 5 การระงับบริการ กรณีบัญชีผู้ใช้บริการไม่มีความเคลื่อนไหว 

ข้อ 10. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการให้บริการของผู้ใช้บริการรายใดก็ตาม ที่ไม่มีการใช้งานระบบหรือไม่ได้ใช้บริการติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับการให้บริการได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการริบเงินค่าบริการที่ได้ชำระไว้แล้ว (หากมี)

หมวดที่ 6 การระงับบริการชั่วคราว 

ข้อ 11. ผู้ให้บริการอาจระงับการให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราวด้วยเหตุจำเป็นบางประการ เช่น การปรับปรุงระบบ การบำรุงรักษา การป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หรือเหตุสุดวิสัยอื่นใด ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการระงับบริการสำหรับบริการที่มีค่าธรรมเนียม ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าบริการสำหรับระยะเวลาที่มีการระงับบริการดังกล่าว

ข้อ 12. ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับการใช้งานบัญชีของผู้ใช้บริการไว้ชั่วคราว หากอยู่ในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่าย “ฉ้อโกง” หรือพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงพัสดุเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า หากผลการตรวจสอบไม่พบพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย ระบบจะอนุญาตให้ใช้งานต่อได้ตามปกติ

ข้อ 13. ในกรณีที่คำสั่งซื้อที่ส่งแล้วถูกตีกลับ (ไม่สำเร็จ) เกินร้อยละ 15 ของคำสั่งซื้อทั้งหมดภายในระยะเวลาใด ๆ ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับการให้บริการของผู้ใช้บริการชั่วคราว เพื่อทำการตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากการตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่าย ระบบจะอนุมัติให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ข้อ 14. ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับพัสดุ หรือระงับการให้บริการ หากตรวจพบว่าผู้ใช้บริการมียอดค้างชำระสะสมมากกว่าหรือเท่ากับ 1 รายการ หรือในระดับที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

หมวดที่ 8 ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ให้บริการ

ข้อ 15. ผู้ให้บริการไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย สูญหาย หรือค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และไม่ว่าจะเกิดจากความผิดพลาด ความล่าช้า การขัดข้องทางระบบ หรือความบกพร่องในการใช้งานของผู้ใช้บริการเอง

กรณีมีเหตุให้ผู้ให้บริการต้องรับผิดตามกฎหมายหรือข้อตกลงใด ๆ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการจำกัดความรับผิดต่อความเสียหายที่แท้จริงเท่านั้น โดยมูลค่าความรับผิดสูงสุดไม่เกิน 2,500.00 บาท (สองพันห้าร้อยบาทถ้วน) ต่อเหตุการณ์ หรือจำนวนอื่นใดตามที่ผู้ให้บริการเห็นสมควร โดยไม่รวมถึงค่าเสียหายเชิงลงโทษ หรือค่าเสียหายโดยอ้อม เช่น ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ หรือผลกำไรที่คาดว่าจะได้รับ

กรณีที่ผู้ให้บริการพบว่าผู้ใช้บริการฝ่าฝืนข้อกำหนดใช้บริการข้อ 5 นี้ และสินค้าดังกล่าวเกิดความเสียหาย หรือสูญหายจากการขนส่งของผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย หรือสูญหาย อย่างใด ๆ แก่สินค้าดังกล่าว

หมวดที่ 9 การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไข 

ข้อ 16. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือเพิ่มเติมข้อตกลง เงื่อนไขการใช้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในทันทีที่มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการตกลงที่จะผูกพันและยอมรับข้อกำหนดที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นโดยปริยายจากการใช้งานระบบหรือบริการอย่างต่อเนื่อง

หมวดที่ 10 ค่าบริการ 

ข้อ 17. ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมชำระค่าบริการตามอัตราที่ผู้ให้บริการกำหนด และผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้ตลอดเวลา โดยผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด และการที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการต่อไปภายหลังเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ ถือว่าผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมชำระค่าบริการตามอัตราที่มีการเปลี่ยนแปลง 

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิหักเงินจากยอดเงินคงเหลือในระบบบัญชีของผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติในวันที่ถึงรอบกำหนดชำระค่าบริการ และผู้ใช้บริการตกลงที่จะรักษายอดเงินคงเหลือในบัญชีดังกล่าวให้เพียงพอต่อการหักเงินเพื่อชำระค่าบริการตามที่กำหนดไว้ หากผู้ให้บริการพบว่าจำนวนเงินที่คงเหลือในบัญชีไม่เพียงพอต่อการหักเงินค่าบริการ ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับบัญชีการใช้บริการชั่วคราวจนกว่าผู้ใช้บริการจะเพิ่มยอดเงินในบัญชีให้เพียงพอต่อการหักเงินเพื่อชำระค่าบริการ

ข้อ 18. ผู้ใช้บริการเข้าใจและยอมรับว่า เงินที่โอนหรือเติมเข้าระบบเพื่อชำระค่าบริการ ไม่สามารถถอนหรือขอคืนได้ในทุกกรณี ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ให้บริการเป็นฝ่ายยกเลิกการให้บริการโดยสมัครใจหรือเหตุอื่นใดที่ผู้ให้บริการพิจารณาแล้วเห็นสมควร 

ในกรณีผู้ให้บริการอนุมัติคืนค่าบริการ ผู้ให้บริการจะคืนค่าบริการให้ตามจำนวนที่แท้จริง หลังจากหักค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องชำระให้แก่ผู้ให้บริการตามที่กำหนดไว้ภายใน 30 วันทำการ หลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ครบถ้วน ถูกต้องแล้ว 

ข้อ 19. ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิหักเงินจากยอดเงินคงเหลือในบัญชีของผู้ใช้บริการโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในกรณีดังต่อไปนี้

  1. กรณีที่เกี่ยวข้องกับค่าจัดส่งสินค้า หรือพัสดุ 
  2. กรณีที่เกี่ยวข้องกับค่าบริการระบบ 
  3. กรณีที่เกี่ยวข้องกับการขอคืนเงินค่าสินค้าที่มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD)
  4. หากตรวจพบว่าเงินในบัญชีของผู้ใช้บริการมีไม่เพียงพอต่อการชำระค่าบริการตามเงื่อนไข ผู้ใช้บริการตกลงและยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธิหักค่าบริการดังกล่าวจากยอดเงินที่บริษัทต้องนำส่งให้แก่ผู้ใช้บริการจากรายการเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ใช้บริการแต่อย่างใด

ข้อ 20. หากผู้ให้บริการตรวจสอบภายหลังและพบว่าผู้ใช้บริการได้ระบุน้ำหนักพัสดุไม่ถูกต้อง หรือคลาดเคลื่อนไปจากน้ำหนักจริงที่ตรวจวัดได้ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าบริการส่วนต่างเพิ่มเติมจากผู้ใช้บริการตามอัตราค่าบริการที่แท้จริง โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า

หมวดที่ 11 เบ็ดเตล็ด 

ข้อ 21. หากข้อใดในข้อตกลงนี้ถูกศาลหรือหน่วยงานที่มีอำนาจวินิจฉัยว่าบังคับใช้ไม่ได้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นโมฆะ ข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เหลือจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปโดยไม่ถูกกระทบกระเทือน

ข้อ 22. ข้อตกลงนี้อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายไทย และให้ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการหรือข้อตกลงนี้

ข้อ 23. การที่ผู้ให้บริการมิได้ใช้สิทธิตามข้อตกลงฉบับนี้ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน มิให้ถือว่าเป็นการสละสิทธิ และไม่เป็นการตัดสิทธิในการใช้สิทธิดังกล่าวในอนาคต

ข้อ 24. การติดต่อผู้ให้บริการ หากผู้ใช้บริการประสบปัญหาในการใช้งาน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบริการ สามารถติดต่อผู้ให้บริการได้ทางอีเมล [email protected] หรือผ่านช่องทางอื่นตามที่บริษัทกำหนดและแจ้งไว้บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ


บันทึกแนบท้ายข้อกำหนดใช้บริการ

ส่วนที่ 1 สิทธิของผู้บริโภคในการปฏิเสธการรับสินค้า และขอคืนเงินค่าสินค้า ที่มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) 

บริษัท ไบด์เซอร์ เทค จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเชื่อมต่อกับผู้ประกอบธุรกิจที่ให้บริการขนส่งพัสดุและเรียกเก็บเงินปลายทางตามคำสั่งของผู้ส่งสินค้า ตกลงให้ความร่วมมือและปฏิบัติตาม ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 อย่างเคร่งครัด เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยมีสาระสำคัญที่ผู้ส่งสินค้าควรทราบ ดังนี้ 

คำนิยาม

1.1 ผู้ให้บริการ หมายถึง บริษัท ไบด์เซอร์ เทค จำกัด ผู้ให้บริการระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อมโยงคำสั่งซื้อ 
การชำระเงิน และการจัดส่งสินค้าผ่านผู้ให้บริการขนส่ง ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ชื่อ “Order Plus”

1.2 “ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus)” หมายถึง ผู้ให้บริการขนส่งที่เป็นพันธมิตรร่วมกันกับผู้ให้บริการเพื่อให้บริการจัดส่งพัสดุและเรียกเก็บเงินปลายทางจากผู้บริโภคตามคำสั่งของผู้ส่งสินค้า

1.3 “ผู้ส่งสินค้า” หมายถึง ผู้ใช้บริการระบบของผู้ให้บริการซึ่งส่งสินค้าให้ผู้บริโภคผ่านระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ โดยการจัดส่งสินค้าผ่านผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus)

1.4 มาตรการส่งดี” (Dee – Delivery) หมายถึง แนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์ที่ออกโดย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ภายใต้ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป 

1.5 “ชำระเงินปลายทาง” หรือ “COD” (Cash on Delivery) หมายถึง รูปแบบการชำระเงินค่าสินค้าที่ผู้บริโภคจะชำระต่อพนักงานจัดส่งสินค้าหรือผู้ประกอบธุรกิจ ณ เวลาที่ได้รับสินค้าตามคำสั่งซื้อ โดยมิได้ชำระเงินล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์หรือช่องทางอื่นก่อนการจัดส่ง

ข้อ 1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้อนข้อมูลสินค้า 

เพื่อให้การให้บริการขนส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) เป็นไปตามข้อกำหนดของ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องธุรกิจควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 (“มาตรการส่งดี”) ผู้ส่งสินค้าตกลงและยินยอมที่จะดำเนินการดังนี้ 

  1. ระบุรายละเอียดสินค้าบนระบบของผู้ให้บริการอย่างครบถ้วนและถูกต้องเป็น ภาษาไทย ได้แก่ ชื่อสินค้า ขนาด สี รุ่น ปริมาณ และ/หรือคุณลักษณะอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามลักษณะสินค้า กรณีที่มีข้อจำกัดในการกรอกข้อมูลเป็นภาษาไทยให้เพิ่มเติมหมายเหตุเข้าไป พร้อมระบุเหตุผลถึงข้อจำกัดดังกล่าว เช่น (หมายเหตุ ชื่อสินค้า ชื่อรุ่น ไม่มีภาษาไทย หรือมีเฉพาะที่เป็นภาษาอังกฤษ) 
  2. ตรวจสอบและรับผิดชอบต่อความถูกต้องของข้อมูลสินค้าที่ป้อนเข้าระบบ โดยข้อมูลเหล่านี้จะปรากฏใน หลักฐานการรับเงิน ที่ออกให้แก่ผู้บริโภคปลายทางโดยผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus)

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือจำกัดการใช้งานบางฟังก์ชัน หากพบว่าผู้ส่งสินค้ามีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงหรือจงใจให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน และหรือไม่ถูกต้อง เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมายและลดความเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนภายหลัง

ข้อ 2. การให้ข้อมูลผู้ส่งสินค้าเพื่อออกหลักฐานการรับเงิน

ผู้ส่งสินค้ารับทราบและยินยอมว่าเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการส่งดี ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) จะต้องจัดทำและออกหลักฐานการรับเงินซึ่งระบุข้อมูลสินค้ารายการที่จัดส่ง รวมถึงข้อมูลของผู้ส่งสินค้า และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

ในการนี้ ผู้ส่งสินค้าตกลงยินยอมให้ผู้ให้บริการมีสิทธินำส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อ เช่น รายการสินค้า ข้อมูลติดต่อของผู้ส่งสินค้า และข้อมูลจำเป็นอื่น ๆ ไปยังผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) เพื่อใช้ในการจัดทำหลักฐานการรับเงินดังกล่าว โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ข้อ 3. สิทธิของผู้บริโภคในการปฏิเสธสินค้า

ผู้บริโภคมีสิทธิปฏิเสธรับสินค้า หรือขอคืนเงินค่าสินค้าในกรณีดังต่อไปนี้

  1. ได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ หรือ
  2. ได้รับสินค้าที่มีความชำรุดบกพร่อง หรือ 
  3. ได้รับสินค้าที่ตนไม่ได้สั่งซื้อ แต่มีการเรียกเก็บเงินปลายทาง

ข้อ 4. การปฏิเสธสินค้า  เวลารับมอบ 

กรณีที่ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบสินค้า ณ เวลารับมอบได้ การตรวจสอบนั้นต้องกระทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) โดยบันทึกภาพถ่ายหรือวิดีโอตลอดระยะเวลาที่ตรวจสอบเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการอ้างถึงเหตุแห่งการปฏิเสธสินค้า หากตรวจสอบแล้วพบว่าสินค้าไม่ตรงกับคำสั่งซื้อ หรือพบว่าสินค้ามีความชำรุดบกพร่อง ผู้บริโภคมีสิทธิปฏิเสธการรับสินค้าได้ ทั้งนี้ การตรวจสอบนั้นต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้า 

ข้อ 5. การปฏิเสธสินค้าและการขอคืนเงินภายหลังรับมอบสินค้า

กรณีที่ผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบสินค้า ณ เวลารับมอบได้ ผู้บริโภคสามารถแจ้งผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) ในภายหลังได้ โดยอ้างอิงภาพถ่าย หรือวีดีโอ หากตรวจสอบแล้วพบว่าสินค้าไม่ตรงกับคำสั่งซื้อ หรือพบว่าสินค้ามีความชำรุดบกพร่อง และหากตรวจสอบแล้วเห็นว่าเป็นความจริงตามที่ผู้บริโภคแจ้ง หรือไม่มีการโต้แย้งจากผู้ประกอบธุรกิจ ภายใน 5 วันนับแต่วันที่ผู้บริโภคได้รับมอบสินค้า ผู้บริโภคมีสิทธิปฏิเสธสินค้า และมีสิทธิได้รับเงินที่ชำระปลายทางคืนเต็มจำนวน ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อเรียกร้อง และการคืนเงินค่าสินค้าที่มีการเรียกเก็บปลายทาง เป็นหน้าทีของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) โดยตรง

ข้อ 6. การขอคืนเงินกรณีที่ผู้บริโภคไม่ได้เป็นผู้สั่งซื้อสินค้า แต่ชำระเงินปลายทางแล้ว 

กรณีผู้บริโภคแจ้งปฏิเสธสินค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) โดยอาศัยเหตุว่าตนไม่ได้สั่งซื้อสินค้า ตามที่ระบุในข้อ 3 ค. และเงินที่เรียกเก็บปลายทางยังอยู่ในความครอบครองผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ในการคืนเงินให้แก่ผู้บริโภค เว้นแต่ผู้ประกอบธุรกิจจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้บริโภคเป็นผู้สั่งซื้อจริง

ข้อ 7. หลักเกณฑ์ในการถือเงินที่เรียกเก็บปลายทาง

ผู้ประกอบธุรกิจขน     ส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) ซึ่งเป็นผู้รับเงินปลายทาง จะต้องถือเงินค่าสินค้าไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน นับแต่วันที่ผู้บริโภคได้รับพัสดุ โดยจะยังไม่โอนเงินให้แก่ผู้ให้บริการ จนกว่าจะพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่ เป็นกรณีเข้าข้อยกเว้น ตามข้อ 8

ข้อ 8. ข้อยกเว้นการถือเงินที่เรียกเก็บปลายทาง

ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่าผู้บริโภคได้กดยืนยันรับสินค้าแล้ว ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) มีสิทธิโอนเงินที่เรียกเก็บปลายทางให้แก่ผู้ให้บริการได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดระยะเวลา 5 วันนับจากวันที่ผู้บริโภคได้รับพัสดุ

ข้อ 9. ระยะเวลาการคืนเงิน

หากผู้บริโภคแจ้งปฏิเสธการรับสินค้าและขอคืนเงิน ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ผู้บริโภคได้รับพัสดุ และอ้างเหตุแห่งการปฏิเสธตามข้อ 2 เมื่อผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริง ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) ต้องคืนเงินเต็มจำนวนให้แก่ผู้บริโภคภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง

ข้อ 10. การโอนยอดเงินที่เรียกเก็บปลายทางให้ผู้ส่งสินค้า

ผู้ให้บริการจะดำเนินการโอนเงินที่เรียกเก็บปลายทางให้แก่ผู้ส่งสินค้า เมื่อได้รับโอนยอดเงินจากผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) หลังจากการจัดส่งสินค้านั้นผู้บริโภคไม่ได้มีการโต้แย้งภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือผู้บริโภคยืนยันการรับสินค้า แล้วแต่กรณี 

ข้อ 11. การระงับโอนยอดเงินที่เรียกเก็บปลายทางให้ผู้ส่งสินค้า

ในกรณีที่คำสั่งซื้อที่ส่งแล้วถูกตีกลับ (จัดส่งไม่สำเร็จ) เกินร้อยละ 15 ของคำสั่งซื้อทั้งหมด ภายในระยะเวลาใด ๆ ผู้ให้บริการมีสิทธิระงับการจ่ายเงินที่เรียกเก็บปลายทางของผู้ส่งสินค้าไว้ก่อน และดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบว่าผู้ส่งสินค้ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำการหลอกลวง ฉ้อฉล หรือทุจริตใด ๆ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ 
ผู้ให้บริการมีสิทธิในการระงับการจ่ายเงินที่เรียกเก็บปลายทางดังกล่าว และส่งมอบเงินนั้นให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งซึ่งมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ (Order Plus) เพื่อคืนแก่ผู้บริโภคต่อไป 

ทั้งนี้ การใช้สิทธิตามบันทึกแนบท้ายนี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ให้บริการในการดำเนินการใด ๆ ตามข้อกำหนดใช้บริการ 

หมายเหตุ สิทธิในการคืนเงินตามบันทึกแนบท้ายข้อกำหนดใช้บริการ ส่วนที่ 1 นี้ ไม่รวมถึงกรณีที่ผู้บริโภคเปลี่ยนใจหรือไม่ต้องการสินค้าโดยไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น